top of page

5 เคล็ดลับลดการปวดตาจากหน้าจอ : เข้าใจและบรรเทาอาการปวดตาจากหน้าจอ

  • tbfc1000
  • 10 ก.ย. 2567
  • ยาว 1 นาที

ในยุคดิจิทัลปัจจุบันที่หน้าจอกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา สิ่งที่ควรให้ความสำคัญแต่ถูกมองข้ามไปบ่อยครั้งคือปัญหาการปวดตาจากการใช้หน้าจอ (Digital Eye Strain) ซึ่งเป็นปัญหาที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่หน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพตา เรามาทำความเข้าใจสาเหตุ ผลกระทบ และวิธีแก้ไขปัญหานี้กันเถอะ


สาเหตุของการปวดตาจากการใช้หน้าจอ

การปวดตาจากการใช้หน้าจอหรือที่เรียกว่า Computer Vision Syndrome เกิดจากหลายปัจจัย สาเหตุหลักมาจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานานทำให้ดวงตาต้องปรับโฟกัสอยู่ตลอดเวลา แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ แสงสะท้อนจากหน้าจอ ระยะการดูที่ไม่เหมาะสม และปัญหาสายตาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการปวดตาได้เช่นกัน


ผลกระทบของการใช้หน้าจอนานๆ ต่อดวงตา

ผลกระทบจากการใช้หน้าจอเป็นเวลานานมีหลายด้าน อาการทั่วไปของการปวดตาจากการใช้หน้าจอได้แก่ ปวดศีรษะ สายตาพร่ามัว ตาแห้ง และปวดคอหรือไหล่ การสัมผัสกับแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากหน้าจออาจรบกวนการนอนหลับและส่งผลเสียต่อสุขภาพตาในภาพรวม นอกจากนี้ผลกระทบในระยะยาวอาจรวมถึงการพัฒนาสายตาสั้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น



5 เคล็ดลับลดอาการปวดตาจากหน้าจอ
5 เคล็ดลับลดอาการปวดตาจากหน้าจอ

เคล็ดลับลดการปวดตาจากหน้าจอ


  1. ปฏิบัติตามกฎ 20-20-20: ทุกๆ 20 นาที ให้หยุดพัก 20 วินาที แล้วมองสิ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต การปฏิบัตินี้จะช่วยลดความตึงเครียดของตาและให้ดวงตาได้ปรับสภาพ

  2. ปรับการตั้งค่าหน้าจอ ลดความสว่างของหน้าจอและรักษาระยะห่างจากหน้าจอให้เหมาะสม เพื่อลดความเครียดของดวงตา

    - หน้าจอโทรศัพท์มือถือ ระยะห่างประมาณ 30-40 เซ็นติเมตร

    - หน้าจอคอมพิวเตอร์ ระยะห่างประมาณ 50-70 เซ็นติเมตร

    - หน้าจอทีวีขนาด 32 นิ้ว ระยะนั่งใกล้ที่สุดคือ 1.25 เมตร ระยะนั่งไกลที่สุดคือ 2.50 เมตร

    - หน้าจอทีวีขนาด 42 นิ้ว ระยะนั่งใกล้ที่สุดคือ 1.60 เมตร ระยะนั่งไกลที่สุดคือ 3.15 เมตร - หน้าจอทีวีขนาด 48 นิ้ว ระยะนั่งใกล้ที่สุดคือ 1.90 เมตร ระยะนั่งไกลที่สุดคือ 3.75 เมตร

    - หน้าจอทีวีขนาด 60 นิ้ว ระยะนั่งใกล้ที่สุดคือ 2.25 เมตร ระยะนั่งไกลที่สุดคือ 4.50 เมตร.


  3. กระพริบตาบ่อยๆ: การจงใจกระพริบตาจะช่วยให้ตาชุ่มชื้น เพราะการจ้องหน้าจออาจลดอัตราการกระพริบตาลงทำให้ตาแห้ง

  4. ใช้ฟิลเตอร์กรองแสงสีฟ้าหรือแว่นตาเลนส์กรองแสงสีฟ้า ฟิลเตอร์กรองแสงสีฟ้าช่วยลดการสัมผัสกับแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย และแว่นตากรองแสงสีฟ้าสามารถป้องกันผลกระทบจากแสงสีฟ้าได้

  5. ไม่ใช้งานมือถือหากอยู่บนพาหนะที่มีความสั่นไหวเพราะทำให้มองจอได้ยาก



ความสำคัญของการป้องกันแสงสีฟ้า

แสงสีฟ้า (Blue Light) เป็นแสงที่มีพลังงานสูง (High-Energy Visible หรือ HEV) ที่ปล่อยออกมาจากหน้าจอดิจิทัล ซึ่งสามารถทะลุเข้าสู่ตาส่วนลึก และก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาว การลงทุนในการป้องกันแสงสีฟ้า เช่น ฟิลเตอร์หรือแว่นตา จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพตาและลดผลกระทบจากการใช้หน้าจอเป็นเวลานาน


สรุปแล้ว การปวดตาจากการใช้หน้าจอเป็นปัญหาที่ต้องให้ความสำคัญในยุคดิจิทัลนี้ โดยการทำความเข้าใจสาเหตุ ผลกระทบ และวิธีแก้ไขปัญหา เราสามารถดำเนินการป้องกันเพื่อรักษาสุขภาพตาและความเป็นอยู่ที่ดีของเราได้ การให้ความสำคัญกับการดูแลดวงตาและการใช้หน้าจออย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในการลดผลกระทบที่ไม่เห็นจากการใช้หน้าจอ อย่าลืมว่าดวงตาของคุณมีค่า ปกป้องมันจากอันตรายที่ไม่เห็นจากหน้าจอดิจิทัล

Comentários


bottom of page