7 กิจวัตรประจำวันที่ทำร้ายสุขภาพดวงตาของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว
- tbfc1000
- 29 ส.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
ในยุคที่หน้าจอกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและการใช้ชีวิตในเมืองทำให้เราต้องเผชิญกับการ
กระตุ้นประสาทสัมผัสที่เกินพอดี ดวงตาของเรากำลังรับผลกระทบที่รุนแรงกว่าที่เราคิด หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่า กิจวัตรประจำวันที่เราทำเป็นประจำหลาย ๆ อย่างที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายกลับทำลายสายตาของเราอย่างเงียบ ๆ ด้านล่างนี้คือ 7 กิจวัตรประจำวันที่กำลังทำร้ายดวงตาของคุณอย่างเงียบ ๆ และวิธีปกป้องการมองเห็นของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

7 กิจวัตรประจำวันที่ทำร้ายสุขภาพดวงตา
1. จ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือเพื่อความบันเทิง เวลาที่เราใช้หน้าจอเพิ่มขึ้นอย่างมากในยุคดิจิทัล การจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน—ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือทีวี สามารถทำให้เกิดภาวะตาล้าดิจิทัล หรือ Computer Vision Syndrome (CVS) ซึ่งมีอาการตาแห้ง ปวดหัว ภาพเบลอ และปวดคอได้
วิธีแก้ ใช้กฎ 20-20-20: ทุก ๆ 20 นาที ให้พักสายตาเป็นเวลา 20 วินาที และมองไปที่สิ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต ปรับการตั้งค่าหน้าจอเพื่อลดการสัมผัสกับแสงสีฟ้า และพยายามกระพริบตาบ่อย ๆ เพื่อให้ดวงตาของคุณชุ่มชื้น
2. ไม่ใส่แว่นกันแดด
ปัญหา หลายคนมักมองว่าแว่นกันแดดเป็นเรื่องของสไตล์มากกว่าประโยชน์ใช้สอย แต่การไม่สวมแว่นกันแดด โดยเฉพาะในวันที่แดดจ้า จะทำให้ดวงตาของคุณสัมผัสกับรังสี UV ที่เป็นอันตราย เมื่อเวลาผ่านไป การสัมผัสนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และแม้กระทั่งมะเร็งตา
วิธีแก้ ลงทุนในแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100% อย่าสวมแว่นกันแดดเฉพาะในวันที่แดดจัดเท่านั้น รังสี UV สามารถทะลุผ่านเมฆได้ ดังนั้นควรสวมแว่นกันแดดแม้ในวันที่มีเมฆมาก
3. การขยี้ตาบ่อย ๆ
ปัญหา การขยี้ตาอาจรู้สึกดี โดยเฉพาะเมื่อคันตาหรือตาล้า แต่การกระทำนี้เป็น 1 ใน 7 กิจวัตรประจำวันที่ทำร้ายสุขภาพดวงตาที่สามารถทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ กิจวัตรนี้อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนที่กระจกตา นำแบคทีเรียเข้าสู่ดวงตา และทำให้เกิดอาการของโรคกระจกตาโป่ง (Keratoconus) ซึ่งคือโรคตาที่ค่อยลุกลามไปช้า ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้พื้นผิวด้านหน้าของดวงตา (กระจกตา) บางลงเรื่อย ๆ และทำให้กระจกตาบิดเบี้ยวกลายเป็นรูปกรวย โรคกระจกตาโป่งทำให้การมองเห็นบิดเบี้ยวซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่นสายตา
วิธีแก้ แทนที่จะขยี้ตา ให้ลองใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง หากไม่สามารถห้ามการขยี้ตาได้ ให้กดผ้าสะอาดที่เย็นและเปียกเบา ๆ ที่ดวงตาเพื่อบรรเทาอาการ

4. ไม่ล้างเครื่องสำอางออกอย่างถูกต้อง
ปัญหา การนอนโดยมีเครื่องสำอางอยู่หรือการไม่ล้างเครื่องสำอางออกอย่างถูกต้องสามารถทำให้เกิดการอุดตันของต่อมรอบดวงตา ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ เช่น เยื่อบุตาอักเสบ (ตาแดง) นอกจากนี้ การที่มาสคาร่าหรืออายไลเนอร์เหลืออยู่ในดวงตายังสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้เกิดการเกิดตากุ้งยิงได้
วิธีแก้ ทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกต้องเป็นกิจวัตรประจำวัน โดยเฉพาะการล้างเครื่องสำอางออกจากดวงตาให้หมด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการแพ้ เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อผิวและดวงตา
5. มองข้ามอาการตาล้า
ปัญหา ตาล้ามักถูกมองข้ามว่าเป็นเพียงความรำคาญเล็กน้อย แต่การมองข้ามมันบ่อยครั้งอาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าได้ การเพิกเฉยต่อภาวะตาล้าเรื้อรังสามารถทำให้เกิดปัญหาสายตาระยะยาวได้ รวมถึงสายตาสั้นและสายตาเอียง
วิธีแก้ หากคุณรู้สึกตาล้า ให้ใช้เป็นสัญญาณในการพักสายตา นั่นอาจหมายถึงการพักจากการใช้หน้าจอ ปรับแสงในสภาพแวดล้อมของคุณ หรือเพียงแค่หลับตาสักครู่ พิจารณาใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง
6. การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
ปัญหา อย่างคำที่ได้เราได้ยินกันบ่อย ๆ "YOU ARE WHAT YOU EAT" และดวงตาของคุณก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หากเรารับประทานอาหารที่ไม่มีสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามิน A, C, E และกรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถทำให้สายตาอ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป โภชนาการที่ไม่ดีอาจนำไปสู่การเกิดโรค เช่น ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และแม้กระทั่งตาแห้ง
วิธีแก้: เพิ่มผักและผลไม้หลากหลายชนิด รวมถึงปลาในอาหารของคุณ แครอท ผักโขม คะน้า และปลาแซลมอนอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเรื่องสุขภาพตา หากจำเป็นพิจารณารับประทานวิตามินรวมที่ช่วยเรื่องการมองเห็น
7. การละเลยการตรวจตาเป็นประจำ
ปัญหา หลายคนไปพบจักษุแพทย์ก็ต่อเมื่อสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเท่านั้น แต่เมื่อถึงเวลานั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมีอยู่แล้วมากมาย การตรวจตาเป็นประจำสามารถตรวจพบปัญหาต่าง ๆ เช่น โรคต้อหิน ต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อมได้เร็วขึ้น
วิธีแก้ กำหนดให้มีการตรวจตาที่ครอบคลุมอย่างน้อยทุก ๆ สองปี หรือบ่อยกว่านั้นหากคุณมีอายุเกิน 40 ปีหรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคตา การตรวจเหล่านี้สามารถตรวจหาปัญหาก่อนที่จะทำให้เกิดความเสียหายถาวรได้
สรุป
ดวงตาของคุณเป็นหน้าต่างสู่โลก และการดูแลสุขภาพดวงตาควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ โดยการแก้ไขกิจวัตรประจำวันทั้งเจ็ดอย่างนี้ คุณสามารถปกป้องการมองเห็นของคุณและมีดวงตาที่เห็นชัดเจนและมีสุขภาพดีไปอีกหลายปี จำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันของคุณสามารถทำให้เกิดความแตกต่างอย่างยิ่งใหญ่ในการมองเห็นของคุณได้ เริ่มตั้งแต่วันนี้แล้วตัวคุณในอนาคตจะขอบคุณคุณ
Comments