9 วิธีดูแลและถนอมดวงตา

ดวงตาของเราเป็นอวัยวะหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนยุคนี้ที่ต้องนั่งจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานจนปวดตา รู้สึกตาพร่า เบลอ มองไม่ชัดเจนแบบนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าควรพักสายตาและควรจะต้องถนอมดวงตาของเราไว้ก่อนที่ดวงตาของเราจะเสื่อมประสิทธิภาพก่อนวัยอันควร วันนี้ แว่นปุถุชน ได้รวม 9 วิธีดูแลและถนอมดวงตามาฝากกันค่ะ

1.กินอาหารบำรุงสายตา

การกินของที่มีประโยชน์สามารถช่วยบำรุงสายตาของเราได้ ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งรวมสารอาหารที่จำเป็นต่อ ดวงตาของเรา และยังสามารถหากินได้ง่าย เจอได้ในทุกมื้ออาหารอย่าง

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มีสารซีแซนทีนที่ช่วยกรองรังสีจากแสงแดด และปกป้องจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยบำรุงดวงตา และช่วยลดการเกิดต้อกระจก ที่สำคัญผลไม้ตระกูลเบอร์รียังอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

ผักใบเขียว มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพดวงตาได้ เพราะในผักใบเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างลูทีนและซีแซนทีน ที่ช่วยลดและชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา และการเกิดต้อกระจกได้

ปลาทะเลน้ำลึก เป็นปลาที่มีไขมันดีสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล เพราะในปลาเหล่านี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมัน DHA ซึ่งเป็นไขมันชนิดเดียวกันกับที่อยู่บริเวณเรตินาหรือจอประสาทตา กรดไขมัน DHA จึงมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูให้ดวงตาของเรากลับมาสดใส มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาเพียงพอ ช่วยป้องกันอาการตาแห้งได้

อัลมอนด์ เพราะในอัลมอนด์อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา นอกจากนี้ก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ สังกะสีและวิตามินอีสูง ที่ช่วยชะลอการเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อม

อะโวคาโด ในอะโวคาโด มีลูทีน เบต้าแคโรทีน และวิตามินซี สารอาหารสำคัญที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยบำรุงสายตา และป้องกันอาการตาพร่ามัว หรือฝ้าฟาง

แคร์รอต มีวิตามินบำรุงสายตาอย่างวิตามินเอ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และลูทีน ที่ช่วยดูแลให้ดวงตาสุกใส ช่วยบำรุงกระจกตาให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ลูกตาถูกทำร้ายจากแสงยูวี และยังช่วยให้เรามองเห็นในตอนกลางคืนได้ดีขึ้นอีกด้วย

ไข่ ไข่ขาวมีโปรตีนสูงช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และไข่แดงเป็นแหล่งของลูทีน ซีแซนทีน และซิงค์ (ธาตุเหล็ก) ที่ช่วยลดและชะลอความเสี่ยงในการเสื่อมของจอประสาทตา ทั้งยังช่วยบำรุงเซลล์ต่าง ๆ ในลูกตา ช่วยให้ดวงตาของเรามีสุขภาพที่แข็งแรง

2.กะพริบตาถี่ ๆ 

การกะพริบตาถี่ ๆ จะช่วยให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงบริเวณรอบดวงตามากยิ่งขึ้น ลดการเกิดอาการตาแห้ง แสบตา หรือตาบวม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับการหยอดน้ำตาเทียม หากรู้สึกเมื่อยล้า สามารถใช้ช้อนแช่เย็นหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาประคบบริเวณรอบดวงตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและคลายอาการเมื่อยล้าลงได้

3. ดูแลรักษาความสะอาดของดวงตา

เราควรหลีกเลี่ยงการนำมือไปสัมผัสหรือขยี้บริเวณดวงตา เพราะมือของเราสามารถนำเชื้อโรค ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าสู่ดวงตาของเราได้ เพราะฉะนั้นหากจำเป็นจะต้องสัมผัสกับดวงตา ควรล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง และในผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ ก็ควรล้างมือก่อนสัมผัสบริเวณดวงตา ไม่ว่าจะก่อนใส่และก่อนถอดคอนแทคเลนส์ เพื่อความสะอาด ลดการสะสมของเชื้อโรค และหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองของดวงตาด้วยค่ะ

4. พักสายตา

สำหรับคนที่ต้องใช้สายตาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน ควรที่จะมีช่วงเวลาพักสายตาทุก ๆ 1 ชั่วโมง ด้วยการมองระยะไกลประมาณ 20 ฟุต เป็นเวลาประมาณ 10 - 20 วินาที จากนั้นสลับมามองระยะใกล้ 10 - 20 วินาที ทำสลับกันหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้เป็นอย่างดี

5. บริหารดวงตาคลายความเมื่อยล้า

หากดวงตาเกิดความเมื่อยล้าจากการใช้สายตามากเกินไป ต้องคลายความเมื่อยล้าด้วยการบริหารดวงตา 5 ท่าง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากกันค่ะ

- หน้ามองตรง คอตั้งตรง กรอกดวงตาเป็นวงกลมหมุนวนทางซ้าย 10 ครั้ง และหมุนทางขวา 10 ครั้ง

- หน้ามองตรง คอตั้งตรง กรอกดวงตามองขึ้นด้านบนจนสุดและมองลงด้านล่างจนสุด โดยไม่แหงนหน้าหรือก้มหน้าลง ทำต่อเนื่องติดต่อกัน 10 ครั้ง

- หน้ามองตรง คอตั้งตรง กรอกดวงตามองด้านซ้ายจนสุดและมองมาด้านขวาจนสุด โดยไม่ต้องหันหน้าตาม ทำต่อเนื่องติดกัน 10 ครั้ง

- หลับตาทั้งสองข้าง แล้วใช้นิ้วชี้วางเหนือหัวคิ้วแต่ละข้าง จากนั้นค่อย ๆ กดนวดเบา ๆ เริ่มตั้งแต่คิ้วแล้วไล่ไปรอบ ๆ ดวงตา

- ยกนิ้วชี้ขึ้นหน้าด้านหน้าเสมอระดับสายตา

โฟกัสไปที่นิ้วของตัวเอง แล้วเลื่อนนิ้วเข้า ออกจากใบหน้า หรืออาจจะถอยออกไปในมุมห้องที่ทำให้มองเห็นภาพรวมของห้องกว้างที่สุด แล้วกวาดสายตาโฟกัสมองสิ่งของต่าง ๆ เพื่อยืดเส้นยืดสายให้กล้ามเนื้อตา

6. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่

การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ที่มากจนเกินไป จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคทางสายตา อย่างเช่นโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม เพราะการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่นั้นสามารถทำลายเส้นประสาทตาได้ ดังนั้นควรลดการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ลง ก็เป็นอีกวิธีดูแลสายตาเพื่อดวงตาที่มีประสิทธิภาพ การมองเห็นที่ดีและได้รับสุขภาพที่ดีด้วย

7. จิบน้ำบ่อย ๆ 

นอกจากการใช้น้ำตาเทียมหรือการประคบดวงตา ก็มีวิธีแบบธรรมชาติที่น่าสนใจและทำได้ง่าย ๆ นั่นก็คือ การจิบน้ำบ่อย ๆ นั่นเอง เพราะวิธีนี้สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการตาแห้งได้เป็นอย่างดีเลย เพราะฉะนั้นเราควรจิบน้ำบ่อย ๆ แทนการดื่มน้ำทีละมาก ๆ เพราะว่าการดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ ร่างกายจะดูดซึมไม่ทันและขับออกมาในรูปแบบของปัสสาวะแทนนั่นเอง

8. พักผ่อนให้เพียงพอ

เพราะการใช้สายตาทั้งวัน เพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานานจะทำให้ตาของเราล้าได้และส่งผลเสียต่อสายตาตามมา เพราะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีแสงสีฟ้าหรือ Blue Light ที่ส่งผลให้ตาของเรามีอาการเมื่อยล้า และรู้สึกดวงตาพร่าเบลอได้ ดังนั้นการพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้เราได้พักสายตาจากการทำงานหนัก ทำให้ตาของเราสดใสขึ้นและการมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

9. ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ

สุขภาพดวงตาเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรข้าม เพราะฉะนั้นเราควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อดวงสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุก ๆ ปี อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจหาความผิดปกติและตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา หากเกิดความผิดปกติที่ดวงตาของเราจะได้รักษาได้ทันท่วงที